การใช้ Used to / Be used to / Get used to ต่างกันอย่างไร

การใช้ Used to, Be used to และ Get used to ต่างกันอย่างไร

การใช้ used to, be used to และ get used to นั้นใช้ได้ไม่ยาก ถ้าเราทราบความหมายของแต่ละคำ เพราะมีความหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ในบางครั้งเราอาจจะสับสน เพราะเป็นคำที่คล้ายกัน และเราอาจจะหลงลืม หากไม่ได้ใช้บ่อย ในบทเรียนนี้จะอธิบายถึง ความหมาย วิธีการใช้ และโครงสร้างประโยคของคำเหล่านี้

ความหมาย

Used to หมายถึง เคย (เช่น เคยทำ เคยกิน เคยไป เคยดู เป็นต้น)
Be (is, am, are, was, were) + used to หมายถึง เคยชิน คุ้นชิน หรือ ชิน
Get used to หมายถึง ปรับตัว หรือ ปรับตัวให้คุ้นเคย

การใช้ Used to

Used to หมายถึง เคย (เช่น เคยทำ เคยกิน เคยไป เคยดู เป็นต้น)

โครงสร้างประโยค
Subject + used to + verb (infinitive)

การใช้ used to ค่อนข้างง่ายที่สุดในกลุ่ม ซึ่งมีความหมายว่า “เคย” โครงสร้างของประโยค
ประธานของประโยค + used to + คำกริยา (ช่องที่ 1)ไม่เปลี่ยนรูป เช่น ไม่เติม ed ไม่เติม ing

ตัวอย่างประโยค

I used to go to the park every day.
ฉันเคยไปสวนสาธารณะทุกวัน

เมื่อเราใช้ used to จะเป็นการบอกว่า “เคยเกิดขึ้น” จากตัวอย่างประโยค ประธานของประโยค คือ I ตามด้วย used to และตามด้วยคำกริยา คือคำว่า go จากความหมายของประโยคที่ว่า “ฉันเคยไปสวนสาธารณะทุกวัน” ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ไปทุกวันเลย

He used to smoke, but he quit.
เขาเคยสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้เขาเลิกแล้ว

She used to live in Bangkok.
เธอเคยอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ (ตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว)

She used to work in marketing, but she switched careers.
เธอเคยทำงานในฝ่ายการตลาด แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนสายงานแล้ว

I used to play soccer when I was in high school.
ฉันเคยเล่นฟุตบอล ตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม

She used to work as a teacher before becoming a writer.
เธอเคยทำงานเป็นครูก่อนที่จะเป็นนักเขียน

He used to drink coffee every morning, but now he drinks tea.
เขาเคยดื่มกาแฟในทุกเช้า ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นดื่มชา

The old building used to be a school.
ตึกหลังเก่าเคยเป็นโรงเรียนมาก่อน

We used to have a dog, but it passed away.
เราเคยเลี้ยงหมา แต่มันตายไปแล้ว

He used to have a lot of free time before starting his new job.
เขาเคยมีเวลาว่างเยอะก่อนที่จะเริ่มงานใหม่

We used to live in the city, but we moved to the countryside.
เราเคยอยู่ในเมืองแต่ตอนนี้เราย้ายออกมาอยู่ในชนบท

คำว่า “ไม่เคย”

คำตรงกันกันข้ามของคำว่าเคย คือ ไม่เคย ในภาษาอังกฤษเราใช้คำว่า has/have + never มีโครงสร้างประโยคคือ
Subject + has/have + never + verb.3
ประธาน + has หรือ have + never + คำกริยาช่องที่ 3

ตัวอย่าง

They have never traveled outside of the country.
พวกเขาไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ

I have never been to Japan.
ฉันไม่เคยไปประเทศญี่ปุ่น

He has never done a marathon.
เขาไม่เคยวิ่งมาราธอน

การใช้ Be + used to

Be (is, am, are, was, were) + used to หมายถึง เคยชิน คุ้นชิน หรือ ชิน
Be ในที่นี้หมายถึง verb to be ได้แก่ is, am, are, was, were ซึ่งต้องเลือกใช้ตามประธานของประโยค และถ้าเป็นรูปอดีตให้เลือกใช้ was หรือ were เช่น I am, he is, she is, they are หรือถ้าเป็นรูปอดีต ใช้เป็น I was, he was, she was, they were เป็นต้น

โครงสร้างประโยค
Subject + be (is, am, are, was, were) + used to + verb.ing or noun.

การใช้ Be + used to มีโครงสร้างประโยคคือ
ประธาน + verb to be (is, am, are, was, were) + used to + คำกริยาที่เติม ing หรือ คำนาม

ตัวอย่างประโยค

I’m used to waking up early in the morning.
ฉันคุ้นชินกับการตื่นนอนแต่เช้าตรู่

He is used to studying for long hours.
เขาคุ้นชินกับการที่ต้องเรียนติดต่อกันหลายชั่วโมง

We are used to eating spicy food.
ฉันชินกับการกินเผ็ด

She is used to living alone.
เธอคุ้นชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียว

We are used to traveling by train.
ฉันคุ้นเคยกับการเดินทางโดยรถไฟ

He is used to the cold weather in his hometown.
เขาคุ้นชินกับอากาศที่หนาวเย็นจากบ้านเกิดของเขา

He is not used to the noisy environment in the city.
เขาไม่คุ้นเคยกับเสียงดังของชุมชนเมือง

การใช้ Get used to

Get used to หมายถึง ปรับตัว หรือ ปรับตัวให้คุ้นเคย

โครงสร้างประโยค
Subject + get + used to + -verb.ing or noun.

การใช้ Get used to มีโครงสร้างประโยค คือ ประธาน + get + used to + คำกริยาที่เติม ing หรือ คำนาม

เมื่อเราใช้ get used to จะเป็นการบ่งบอกว่า กำลังอยู่ในกระบวนการที่ต้องปรับตัวให้คุ้นเคยหรือคุ้นชิน และในหลายประโยคมักพบว่ามีการใช้คำว่า “need to” และ “have to” ร่วมด้วย เพื่ออธิบายว่า “จำเป็นต้อง” ปรับตัวให้เคยชินในสถานการณ์นั้น

เรามักพบการใช้ Get used to ในรูปแบบ ประธานของประโยค + be (is, am, are) + getting + used to เพื่อบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในกระบวนการปรับตัวอยู่

หรือถ้าเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต เราสามารถใช้ got + used to ได้

ตัวอย่างประโยค

We need to get used to the cold weather.
เราต้องปรับตัวให้คุ้นชินกับอากาศหนาว

I had to get used to waking up early for work.
ฉันต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับการตื่นเช้าเพื่อไปทำงาน

I have to get used to the new job.
ฉันต้องปรับตัวในการทำงานใหม่

She’s still trying to get used to her new role as a manager.
เธอยังพยายามเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับบทบาทใหม่ของเธอในการเป็นผู้จัดการ

It takes time to get used to living in a big city.
ต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัวในการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่

I need to get used to using this new phone.
ฉันต้องปรับตัวให้ชินกับใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่นี้

She’s getting used to being away from home now.
เธอกำลังปรับตัวให้คุ้นเคยกับการที่ต้องอยู่ไกลบ้าน

He is getting used to the new equipment.
เขากำลังปรับตัวให้คุยเคยกับอุปกรณ์ใหม่

We are getting used to the new regulations.
เรากำลังปรับตัวให้คุ้นชินกับกฎระเบียบใหม่

We got used to having to wear masks in public places.
เราปรับตัวได้แล้วกับการต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ

สรุป

การใช้ used to, be used to และ get used to นั้นใช้ได้ไม่ยาก ถึงมีจะเป็นคำที่คล้ายกัน แต่ก็มีความหมายที่ต่างกัน ถ้าเราทราบความหมาย และจำความหมายได้โดยไม่สับสน ก็จะสามารถใช้ในประโยคได้ถูกต้อง

Used to หมายถึง เคย (เช่น เคยทำ เคยกิน เคยไป เคยดู เป็นต้น)
Be (is, am, are, was, were) + used to หมายถึง เคยชิน คุ้นชิน หรือ ชิน
Get used to หมายถึง ปรับตัว หรือ ปรับตัวให้คุ้นเคย

สิ่งที่ต่างกันระหว่าง
I used to
I’m used to
I’m getting used to
คือความหมายที่แตกต่างกัน
I used to หมายถึง “ฉันเคย”
I’m used to หมายถึง “ฉันเคยชิน”
I’m getting used to หมายถึง “ฉันกำลังปรับตัว” (เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย หรือเคยชิน)

To top